หากพูดถึงพรมใส่รถยอดนิยมอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่ พรมปูพื้นรถยนต์ไวนิล, ผ้ายาง, พรมกระดุม, พรมแบบเข้ารูปและพรมแบบ 3D, 5D และ 6D แต่ด้วยตัวเลือกมากมายขนาดนี้ทำให้คุณตัดสินใจไม่ได้ว่าควรเลือกแบบไหน? ไม่ต้องกังวลไปเราจะพาไปดูว่าแต่ละแบบมีความโดดเด่นยังไง? มีข้อเสียอย่างไร?
พรมใส่รถแต่ละแบบมีข้อดี – ข้อเสียยังไง
สำหรับข้อดี – ข้อเสียของพรมใส่รถแต่ละแบบขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้และจุดประสงค์ในการใช้งานหลัก ๆ ประกอบไปด้วย
1. พรมปูพื้นรถยนต์แบบไวนิล
ความพิเศษของพรมปูพื้นแบบนี้คือ สามารถดักจับฝุ่นได้ดีถึงดีมาก ไม่ว่าจะเป็นคราบสกปรกแบบไหนไวนิลล้วนป้องกันได้ อีกทั้งยังทนต่อความร้อนได้ดีและมีตีนตุ๊กแกยึดทำให้ไม่ลื่นไหลอีกด้วย
ข้อด้อย
อาจต้องถอดออกมาทำความสะอาดบ่อย ๆ เพราะหากปล่อยเอาไว้ฝุ่นที่สะสมอยู่ในพรมจะกระจายทั่วห้องโดยสาร และอาจตามมาด้วยปัญหาสุขภาพได้
2. พรมแบบผ้ายาง
สามารถหาซื้อได้ง่ายเพราะราคาถูกมาก ๆ และสามารถทนความร้อนได้สูง
ข้อด้อย
น้ำหนักค่อนข้างเยอะ เวลาล้างทำความสะอาดต้องซับหรือตากให้แห้งก่อนนำมาติดตั้งใหม่อีกรอบ เพราะหากไม่แห้งสนิทอาจทำให้เกิดเหม็นกลิ่นอับตามมา
3. พรมกระดุม
ข้อดีของพรมแบบนี้คือ สามารถถอดและติดตั้งง่ายมาก ๆ คนไม่มีประสบการณ์ก็สามารถทำได้
ข้อด้อย
ต้องหมั่นทำความสะอาดบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกและฝุ่นต่าง ๆ ที่อาจทำให้กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้
4. พรมแบบ 3D, 5D หรือ 6D
หลายคนต่างเคลมมาว่ามีข้อดีเยอะมาก ครอบคลุมตั้งแต่สามารถดักจับฝุ่นละอองได้ดี ไม่มีปัญหาการลื่นไหล ปกคลุมส่วนต่าง ๆ ภายในตัวรถได้ครอบคลุมเกือบทุกส่วน
ข้อด้อย
มีเพียงแค่ข้อเดียวคือ อาจมีความเป็นไปได้ว่าตีนตุ๊กแกที่เป็นตัวยึดเกราะกับพื้นรถจะทำให้ดึงใยสังเคราะห์ขึ้นมาด้วยเวลาดึงออกมาทำความสะอาด ซึ่งอาจกลายเป็นสาเหตุทำให้ใยสังเคราะห์หลุดลุ่ยหรือเสียทรงได้นั่นเอง
5. พรมแบบเข้ารูป
ข้อดีออกแบบมาให้ครอบคลุมส่วนต่าง ๆ ภายในรถได้เกือบทั้งหมด แถมยังติดตั้งง่ายและทำความสะอาดสะดวกสบายสุด ๆ
ข้อด้อย
ด้านข้างพรมไม่มีการยึดเกาะติดกับส่วนใดส่วนหนึ่งของรถ ทำให้เศษฝุ่นหรือละอองต่าง ๆ สามารถเข้าไปได้
เลือกใช้บริการบริษัทขายพรมยังไง
ถึงแม้การเลือกประเภทพรมใส่รถจะมีส่วนช่วยในการเพิ่มความมั่นใจว่าสามารถแก้ไขปัญหาหรือตอบโจทย์ความต้องการได้จริง แต่ใช่ว่าจะเลือกซื้อกับบริษัทไหนก็ได้ เพราะอาจเป็นความเป็นไปได้ว่าแต่ละบริษัทมีการใช้วัสดุหรือเทคโนโลยีในการผลิตแตกต่างกันไป ซึ่งมีผลต่อคุณภาพและราคาที่ต้องจ่ายด้วย ดังนั้นก่อนใช้บริการจึงอยากให้ตรวจสอบให้รอบคอบเสียก่อน
- ประสบการณ์การให้บริการต้องไม่ต่ำกว่า 5 – 10 ปี
- ชิ้นงานทุกชิ้นต้องผ่านมาตรฐานมอก.
- สามารถขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้งานหรือขอคำแนะนำต่าง ๆ ได้ฟรี
- มีที่อยู่หรือแหล่งที่ตั้งชัดเจน
และสุดท้ายอย่าลืมตรวจสอบด้วยว่ารถยนต์ของตัวเอง คือรุ่นอะไร? ควรเลือกใช้พรมใส่รถขนาดไหน? เพื่อให้มั่นใจว่าเลือกซื้อขนาดสอดคล้องกับพื้นที่จะได้ไม่เสียเงินฟรีหรือยุ่งยากในการแก้ไขภายหลัง